การเติบโตของตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองในปัจจุบัน

ปัจจุบันถ้าวัดกันกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในตลาดขายต่อ โดยมีมูลค่าประมาณ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 และเติบโตเร็วกว่าการขายปลีกแบบดั้งเดิมถึง 4 เท่า และรายงานของ Credit Suisse ในปี 2022 เครื่องประดับ กระเป๋าถือ และนาฬิกา เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับการลงทุนในของสะสมหรูหรา จึงไม่น่าแปลกใจที่ตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองยังคงร้อนแรงจนถึงปัจจุบันนี้

เบื้องหลังการเติบโตนี้ขับเคลื่อนโดยผู้ซื้อจากหลายเหตุผล ทั้งผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นในการตามล่าหาของและข้อจำกัดของแบรนด์ต่างๆ ในการเข้าถึงสินค้า อีกทั้งตลาดขายต่อยังสามารถเป็นช่องทางสำหรับเจ้าของในการเก็บมูลค่าของกระเป๋าบางส่วนกลับคืนมา หรือบางทีอาจจะทำกำไรได้ด้วย ซึ่ง 3 แบรนด์หลักในตลาดขายต่อหนีไม่พ้น Chanel, Hermès และ Louis Vuitton โดย Hermès Birkin มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปีที่ 1.5-10% ขณะที่รุ่นอื่นๆ ก็ได้รับความนิยม และมีความต้องการในตลาดขายต่อ เช่น Hermès Constance มียอดขายต่อเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 105% ในขณะที่ Chanel Medium Flap เพิ่มขึ้น 51%ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

หันมาดูในประเทศไทยกันบ้าง เคยมีการประมาณการกันว่า ตลาดลักชัวรีแบรนด์มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท ขณะที่สินค้ามือสองมีการซื้อขายสินค้าผ่านช็อปของแบรนด์ต่างๆ ถึง 10-20% ไม่รวมช่องทางออนไลน์และการซื้อขายกันเอง จากข้อมูลผู้ให้บริการครบวงจรเกี่ยวกับธุรกิจสินค้าลักชัวรีมือสอง รายงานว่า ก่อนการระบาดของโควิดตลาดสินค้าแบรนด์เนมของไทยเติบโตคงที่และซบเซาระหว่างการระบาดในช่วงแรกของการล็อกดาวน์ประเทศ แต่เมื่อมีการปรับตัว ผู้ซื้อหันมาเลือกช่องทางออนไลน์ในการช้อปปิ้งสินค้า และช่องทางการไลฟ์ก็เป็นตัวช่วยที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จนปัจจุบันผู้ซื้อกลับมาเดินทางได้ตามปกติรูปแบบการซื้อขายก็กลายเป็นการผสมผสานกันระหว่างระบบออนไลน์และออฟไลน์

ตั้งแต่ปี 2019 ก็แสดงให้เห็นว่ายอดขายสินค้าและกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสจะโตขึ้นอีกมาก โดยยอดขายภายในงานครั้งแรกจนถึงงานในปี 2021 มียอดเติบโตขึ้นกว่า 530% ทีเดียว อีกหนึ่งภาพสะท้อนความร้อนแรงของตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองของไทยคือลงทุนธุรกิจร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมทั้งรายเล็กและรายใหญ่ โดยมอบประสบการณ์ความหรูหราแทบจะไม่ต่างจากร้านบูติกของไฮแบรนด์เลยทีเดียว ปัจจุบันนี้นอกจากผู้ซื้อในประเทศแล้ว ไทยยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมมือสองของประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม ฯลฯ และมีศักยภาพที่จะเป็น Hub Center Secondhand Brandname เหมือนในประเทศญี่ปุ่นและฮ่องกง ซึ่งก็คาดว่าตลาดสินค้าและกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองของไทยยังคงจะร้อนแรงต่อไป และจะมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามาในธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน